วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560

การสืบพันธุ์ของพืชดอก

การสืบพันธุ์ของพืชดอก



 การถ่ายละออกเรณู การปฏิสนธิ และ วัฏจักร

1. การถ่ายละออกเรณูของพืชดอก (Pollination)
การถ่ายละอองเรณู หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ละอองเรณูปลิวมาตกบนยอดเกสรตัวเมียของดอกชนิดเดียวกัน
การถ่ายละออกเรณูเกิดขึ้นเมื่อละอองเรณูเจริญเต็มที่ อับเรณูจะแตกออกทำให้ละอองเรณูกระจายออกไป โดยอาศัยลม น้ำ โดยเฉพาะ แมลง มีความสำคัญมากในการถ่ายละอองเรณูของพืชดอก และบนยอดเกสรตัวเมีย โดยจะมีน้ำเหนียวๆ(Stigma) ที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ซึ่งช่วยในการดักละอองเรณู
การถ่ายละอองเรณู มี 2 แบบ คือ
1. การถ่ายละอองเรณูในดอกเดียวกัน หรือคนละดอกในต้นเดียวกัน (Self pollination) การถ่ายละอองเรณูแบบนี้จะทำให้รุ่นลูกมีสมบัติทางกรรมพันธุ์เหมือนเดิม ถ้าเป็นพันธุ์ดีก็จะถ่ายทอดลักษณะพันธุ์ดีไปเรื่อย ๆ
2. การถ่ายละออกเรณูคนละดอกของต้นไม้คนละต้นในพืชนิดเดียวกัน (Cross pollination) เป็นการถ่ายละอองเรณูแบบข้ามดอก หรือต่างต้นกัน ก็จะทำให้พืชมีลักษณะต่างๆ หลากหลายและอาจจะได้พืชพันธุ์ใหม่ ๆขึ้นมาได้
การปฏิสนธิของพืชดอก
เมื่อ ละอองเรณู ตกลงสู่ ยอดเกสรตัวเมีย ละอองเรณูจะงอกท่อยาว เรียกว่า พอลเลนทิวบ์ (Pollen tube) ลงสู่ก้านเกสรตัวเมีย ทิวบ์นิวเคลียสจะเคลื่อนตัวไปตามท่อ ผ่านทางรู ไมโครไพล์ (Micropyle) ของออวุล ในขณะนี้เจเนเรทีฟนิวเคลียส (Generative nucleus) จะแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซีสได้สเปิร์มนิวเคลียส (Sperm nucleus) 2 ตัว เข้าผสมกัน นิวเคลียสของไข่ (Egg cell) ได้ไซโกต (2n) ซึ่งจะเจริญเป็นเอมบริโอต่อไป ส่วนอีกนิวเคลียสจะผสมกับโพลาร์นิวคลีไอ (Polar nuclei) เจริญเป็นเอนโดสเปิร์ม (3n) ซึ่งเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงเอมบริโอ



การผสมซึ่งเกิดจากการผสม 2 ครั้งนี้เรียกว่า การปฏิสนธิซ้อน (Double Fertilization) ซึ่งพบเฉพาะใน พืชดอก   เท่านั้น

หลังจากปฏิสนธิแล้ว
  • รังไข่(ovary )                  เจริญเป็น ผล
  • ผนังรังไข่(ovary wall )  เจริญเป็น เปลือกและเนื้อของผลไม้
  • ออวุล (ovule )                เจริญเป็น เมล็ด
  • ไข่(egg )                          เจริญเป็น ต้นอ่อนอยู่ภายในเมล็ด
  • โพลาร์นิวเคลียส(polar nucleus ) เจริญเป็น เอนโดสเปิร์ม
  • เยื่อหุ้มออวุล (integument )          เจริญเป็น เปลือกหุ้มเมล็ด
  • สำหรับส่วนประกอบอื่น ๆ ของดอกจะเหี่ยวแห้งและสลายตัวไป
การปฏิสนธิซ้อนของพืชดอก มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการสร้างอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น ผลไม้ที่เราใช้รับประทานก็เกิดมาจากการปฏิสนธิ อาหารพวกจ้าว ข้าวโพด ก็เป็นส่วนของเอนโดสเปิร์ม อาหารในเมล็ดถั่วหลายชนิดก็เป็นอาหารที่สะสมอยู่ในใบเลี้ยงของเอมบริโอของถั่ว

ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดการถ่ายละอองเรณูและการปฏิสนธิ
ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดการถ่ายละอองเรณู (Pollination agent) เชน ลม แมลง น้ำหรือสัตว์อื่นๆ จะเป็นสื่อพาละอองเรณูไปด้วยเหตุนี้โครงสร้างของดอกทั่วไปจึงมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับสื่อแต่ละอย่าง เพื่อทำให้การถ่ายละอองเรณูและการปฏิสนธิมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดการถ่ายละอองเรณูได้แก่
1. ลม ดอกไม้ที่มีลมเป็นสื่อพาละอองเรณูไปจะมีละอองเรณูจำนวนมาก แห้งและเบา สามารถปลิวไปกับลมได้ง่ายและไปได้ไกลๆ ดอกมักมีขนาดเล็ก ไม่มีกลิ่นหอม ไม่มีน้ำหวานสำหรับล่อแมลง เช่น ดอกข้าวและดอกพืชตระกูลหญ้าต่างๆ ละหุ่ง พวกสนเกี๊ยะ ละองเรณูยังมีปีก 2 ข้าง ช่วยให้ปลิวได้ง่ายและดีขึ้นสำหรับยอดเกสรตัวเมียของพืชพวกที่มีลมเป็นสื่อพาไปมักจะมีการแตกเป็นฝอยคล้ายขนนกหรือมียางเหนียวๆ เพื่อจับละอองเรณู การใช้ลมพาไปเรียกว่า”แอนีโมฟีลี” (anemophily)
2. แมลง ดอกไม้ที่มีแมลงเป็นสื่อพาละอองเรณูไปมักเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสวย กลิ่นหอม และมีต่อมน้ำหวานเพื่อล่อแมลงให้มาหาอาหาร ซึ่งทำให้ละอองเรณูติดไปตามปีก ขา ลำตัว ปากของแมลง ละอองเรณูของดอกพวกนี้มักจะเหนียวทำให้ติดกับแมลงได้ง่ายเมื่อแมลงบินไปที่ดอกอื่นก็จะพาเอาละอองเรณูไปผสมได้ง่าย แมลงพวกนี้ได้แก่ ผีเสื้อ ผึ้ง แมลงภู่ การใช้แมลงเป็นสื่อในการนำละอองเรณูไปแบบนี้เรียกว่า “เอนโทโมฟรลี” (entomophily)
3. สัตว์อื่นๆ เช่น นกซึ่งชอบกินเกสรดอกไม้ ซึ่งมีอยู่ค่อนข้างน้อย เช่น นกฮัมมิ่ง (Humming bird) การใช้นกเป็นสื่อในการพาละอองเรณูไปเรียกว่า “ออร์นิโทฟีลี” (ornithophily)
4. น้ำ พืชที่ใช้น้ำเป็นสื่อในการพาละอองเรณูไปก็ คือ พวกพืชน้ำเป็นส่วนใหญ่ การใช้น้ำเป็นสื่อในการพาละอองเรณูไปเรียกว่า “ไฮโดรฟีลี” (hydrophily)
 Credit : https://noodangdru.wordpress.com
                https://sites.google.com/site/chiwwithya5/kar-thay-laxxng-renu


          
          

การแบ่งประเภทของดอกโดยใช้การมีหรือไม่มีเกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมีย

การแบ่งประเภทของดอกโดยใช้การมีหรือไม่มีเกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมีย
แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
-ดอกสมบูรณ์เพศ(Perfect flower)  คือ ดอกไม้ที่ทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียรวมอยู่ในดอกเดียวกัน
เช่น มะม่วง มะเขือ ดอกบัว ผักบุ้ง


       







                 







                        













-ดอกไม่สมบูรณ์เพศ (Imperfact flower) คือ ดอกไม้ที่มีเฉพาะเกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียเพียงอย่าง
เดียว เช่น  ดอกหน้าวัว เฟื่องฟ้า



                   













                 














การแบ่งประเภทของดอกโดยใช้ส่วนประกอบของดอกเป็นเกณฑ์
แบ่งได้ 2 ประเภท คือ

-ดอกครบส่วน(Complete flower) คือ ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบของดอกครบทุกส่วน เช่นดอกแพงพว
ดอกชงโค เป็นต้น









          

















-ดอกไม่ครบส่วน(Imcomplete flower) คือ ดอกไม้ที่ส่วนประกอบไม่ครบทุกส่วน ซึ่งอาจมีบาง
ส่วนของดอกขาดหายไป เช่น ฟักทอง บวบ  แตงกวา  เป็นต้น
































Credit : http://www.cmc.ac.th/news.php?view=20130528131001bAng6LT
              http://www.samunpri.com
               http://www.neutron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=2152&Itemid=4

ส่วนประกอบของดอก

ส่วนประกอบดอก




กลีบเลี้ยง   
          เป็นส่วนประกอบที่อยู่นอกสุด มีสีเขียวคล้ายใบ มีหน้าที่ห่อหุ้มส่วนต่างๆของดอกไว้ในขณะดอกยังอ่อนอยู่ เพื่อป้องกันอันตรายจากแมลง


กลีบดอก  
         เป็นส่วนที่อยู่ถัดเข้ามา มักมีสีสันสวยงาม ดอกไม้บางชนิดจะมีต่อมน้ำหวานอยู่ที่โคนของกลีบดอก
ทำให้ดอกมีกลิ่นหอมช่วยล่อแมลงให้มาตอมและผสมเกสร

เกสรตัวผู้   เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากกลีบดอกเข้าไป เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของพืชดอก  เกสรตัวผู้ประกอบด้วย
-ก้านชูละอองเรณู
-อับละอองเรณู  มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองภายในมีเซลล์สืบพันธุ์อยู่  อับละอองเรณูจะอยู่บริเวณด้านบนของก้านชูละอองเรณู

เกสรตัวเมีย  เป็นส่วนที่อยู่ชั้นในสุด ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย  ประกอบด้วย
-ยอดเกสรตัวเมีย  คือส่วนที่อยู่ปลายสุดของก้านเกสรตัวเมีย  มีลักษณะเป็นปุ่ม มีขน
-ก้านเกสรตัวเมีย คือส่วนที่อยู่ถัดจากยอดเกสรตัวเมียลงมา มีลักษณะเป็นท่อยาวเรียวลงมาถึงรังไข่
-รังไข่ คือส่วนที่อยู่ติดกับฐานรองดอก มีลักษณะพองโตเป็นกระเปาะ
-ออวุล คือส่วนที่เรียงอยู่ในรังไข่ มีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆเล็กๆ สีขาวนวล









Credit: https://www.slideshare.net/sawaddee/ss-10104763
             http://www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewbulletin/1493-?groupid=260
             http://www.thaigoodview.com/library/contest2553/type2/science04/24/pages/indexd1a7.html




เรียนรู้เรื่องพืชดอก

ความหมายของพืชดอก
                    พืชดอก หมายถึง  พืชที่เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีดอกให้เห็น พืชดอกจัดเป็นพืชชั้นสูงที่มีอวัยะต่างๆ ครบสมบูรณ์ คือ ราก ลำต้น ใบ ตา ดอกและ  เมล็ด มีไว้เพื่อสำหรับขยายพันธุ์พืชดอกมีอยู่ทั่วไปหลายชนิด มีทั้งที่อยู่บนบกและอยู่ในน้ำ

พืชดอกแบ่งได้ 2 ประเภท คือ 
1. พืชยืนต้น คือพืชที่มีอายุยืน ส่วนต่างๆของลำต้นสามารถเจริญได้ตลอดอายุ ออกดอก ออกผลได้หลายครั้ง เช่น มะม่วง กระท้อน มะขาม เป็นต้น











2.พืชล้มลุก คือ พืชที่มีการเจริญเติบโต และออกดอกออกผลในเวลาอันสั้นแล้วก็ตาย เช่น บวบ ฟักทองเป็นต้น

       




พืชดอกสามารถจำแนกออกได้เป็น  2 พวกใหญ่    คือ  พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
• พืชใบเลี้ยงเดี่ยว  ลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว คือ
-มีใบเลี้ยงเพียงใบเดียว
-ใบมีลักษณะแคบเรียว
-ลักษณะเส้นใบเรียงกันแบบขนาน
-ระบบรากฝอย
-ลำต้นมองเห็นข้อปล้องชัดเจน
-ส่วนประกอบของดอก เช่น กลีบดอกมี 3 กลีบ หรือทวีคูณของ 3 เช่น ต้นใบเตย ต้นข้าวโพด ต้นไผ่เป็นต้น














•พืชใบเลี้ยงคู่   ลักษณะของพืชใบเลี้ยงคู่ คือ
-มีใบเลี้ยง 2 ใบ
-ลักษณะใบกว้าง เส้นเป็นร่างแห
-ระบบรากแก้ว
-ลำต้นมองเห็นข้อปล้องไม่ชัดเจน
-กลีบดอก 4-5 ดอก หรือทวีคูณของ 4-5 เช่น ทานตะวัน กุหลาบ เป็นต้น







                                            




                         











ภาพเปรียบเทียบลักษณะใบของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวกับพืชใบเลี้ยงคู่
                                                                                            

                                                                         










*ด้านซ้ายภาพใบเลี้ยงเดี่ยว ด้านขวาพืชใบเลี้ยงคู่

ภาพเปรียบเทียบลักษณะรากของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวกับพืชใบเลี้ยงคู่



                       







*ด้านซ้ายรากแก้ว(พืชใบเลี้ยงเดี่ยว) ด้านขวารากฝอย(พืชใบเลี้ยงคู่)


Credit :www.majordifferences.com
   WordPress.com

ประวัติผู้เขียน




                                                             


การสืบพันธุ์ของพืชดอก

การสืบพันธุ์ของพืชดอก   การถ่ายละออกเรณู การปฏิสนธิ และ วัฏจักร 1. การถ่ายละออกเรณูของพืชดอก (Pollination) การถ่ายละอองเรณู ห...